การติดตั้งระบบเน็ตเวิร์ค

การตั้งค่าที่เครื่องที่จะเป็น Server

ศึกษาข้อมูลทางเว็บไซต์  http://www.software.worldmedic.com/tech_support/clinic3/tech2.htm  

เครื่องที่จะเป็นเซริฟเวอร์ไม่ต้องเซ็ตฟังก์ชั่นใดๆ  โดยทั่วไป  เครื่องที่จะกำหนดให้เป็นเซริฟเวอร์ควรเป็นเครื่องที่มีสเปกเครื่องสูง และ ไม่เคลื่อนที่บ่อยๆ  เช่น เครื่องที่หน้าเคาท์เตอร์  เป็นต้น

การตั้งค่าที่เครื่องที่จะเป็น Client

1. ให้ดับเบิ้ลคลิกที่  Connected  และจะมีหน้าต่างเพื่อให้กรอกรหัสผ่าน

2. โดยให้กรอกรหัสผ่านว่า  worldmedic  แล้วกดปุ่ม  OK  จะเข้าสู่การหน้าจอ  ดังรูป

เมื่อกรอกข้อมูลเรียบร้อยแล้วให้กดปุ่ม   “ทดสอบการติดต่อ”   จากนั้นให้ทำการกดปุ่ม  “บันทึก”  แล้วทำการกดปิดโปรแกรมเพื่อเข้าสู่โปรแกรมใหม่  เป็นอันเสร็จสิ้นการเชื่อมต่อระบบ   หากมีการเพิ่มเติมเครื่องที่เป็น Client เพิ่มเติมก็สามารถเซ็ตระบบเหมือนกันทุกเครื่อง  ดังนั้น  ระบบซอฟต์แวร์ทั้งหมดจะสามารถเพิ่มได้ไม่จำกัด  อันเป็นการวางแผนสำหรับระบบการบริหารงานภายในคลินิคสำหรับอนาคตได้เป็นอย่างดี     ถ้าเชื่อมต่อกันได้ระหว่างเครื่อง จะแสดงหน้าต่าง "สามารถติดต่อฐานข้อมูลนี้ได้"  ดังรูปล่าง

จากนั้นให้ทำการกดปุ่ม  “บันทึก”  เพื่อบันทึกค่า  แล้วทำการกดปุ่ม "ปิด"  โปรแกรมเพื่อเข้าสู่โปรแกรมใหม่ 

ข้อที่ต้องทำ

1. เครื่องแม่ (Server) ต้องการทำการ ปิด  Firewall ก่อน เพื่อให้เครื่องลูก (Client) เข้ามาแชร์ข้อมูลได้

2. เครื่องแม่ (Server) ต้องการทำการเปิด Share Full ที่ Folder SmartGroup 

3. เครื่องลูก ( Client)  ต้องนำค่า IP Number หรือ ชื่อเครื่องแม่ (Computer Name) มาใส่ในช่องการเชื่อมต่อ  ดังรูปด้านล่าง

หมายเหตุ

  ในกรณีที่เชื่อมต่อไปไม่ได้  หน้าต่างนี้จะหยุดนิ่งอยู่ชั่วครู่ และแสดงหน้าต่าง "ไม่สามารถติดต่อฐานข้อมูลนี้ได้"  

ข้อช่วยเหลือ

• การปิด Firewall ทำดังนี้

>> Setting > Control Panel > Windows Firewall > แฟ้ม General ให้เลือก Off (not recommended)

• การ Share Full Folder SmartGroup  ทำดังนี้

>> C:\SmartGroup\คลิกเมาส์ขวา เลือก Properties > เลือกแฟ้ม Sharing เลือก Share this folder on the network และ Allow network users to change my files

• การดูค่า IP Number ของเครื่องแม่  ทำดังนี้
  • ที่เครื่องแม่ (Server)
• การดูชื่อเครื่อง (Computer name)  ของเครื่องแม่  ทำดังนี้

ข้อควรจำ

1. การเปิดซอฟต์แวร์ใช้งานควรเปิดที่เครื่องแม่ข่าย(Server) ก่อน และค่อยเปิดซอฟต์แวร์เครื่องลูกข่าย(Client) เพราะการต่อแบบเน็ตเวริค์ เครื่องลูกข่าย (Client) ต้องอาศัยฐานข้อมูลจากเครื่องแม่ข่าย ดังนั้น หากเปิดซอฟต์แวร์เครื่องลูกก่อนจะทำให้เครื่องลูกข่ายไม่สามารถเชื่อมต่อกับฐานข้อมูลได้ ซึ่งจะแสดง "Can't connect mySQL "

2. การปิดซอฟต์แวร์ให้ปิดที่เครื่องลูกข่ายก่อน เพราะหากปิดเครื่องแม่ข่ายก่อนจะทำให้เครื่องลูกข่ายไม่สามารถเชื่อมต่อกับฐานข้อมูลแม่ข่ายได้ ทำให้เครื่องหยุดการทำงานได้

3. Anti-Virus บางตัวมีผลต่อการเชื่อมต่อระหว่างเครื่องแม่กับเครื่องลูก ดังนั้นให้ Off Anti-Virus นั้นหรือให้เปลี่ยน Anti-Virus ตัวใหม่ ตัวที่มีประวัติทำให้การเชื่อมต่อมีปัญหาคือ McArfee  และ AntiSpyware บางตัว

4. โพลีคลินิกบางแห่งมีอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ที่มีการส่งคลื่นรบกวนการส่งสัณญานของ Wireless แนะนำให้ใช้เป็นการเชื่อมต่อระหว่างเครื่องแม่และเครื่องลูกด้วยสายแลน จะดีกว่า เพราะเป็นการป้องกันสัณญานหายขณะใช้งานเนื่องจากการรบกวนคลื่นระหว่างกัน

5. กรณีไฟดับกระทันหัน ทำให้เครื่องแม่ข่ายดับด้วย เมื่อเปิดเข้ามาทำงานใหม่ เครื่องลูกบางเครื่องไม่สามารถล๊อกอินเข้ามาได้ เพราะระบบจะแจ้งว่า "มีผู้ใช้งานครบแล้ว" สาเหตุเนื่องจาก เครื่องแม่ยังจำการล๊อกอินก่อนเครื่องดับ ทำให้เหมือนว่ามีจำนวนลูกข่ายครบจำนวนแล้ว ไม่อนุญาตให้ทำการล๊อกอินเข้ามาเพิ่มอีก  วิธีการแก้ไขโดยการใช้ Patch (ดาวน์โหลดได้ที่นี่) ใช้เวลแก้ไขเพียง 1 นาที  ข้อแนะนำคือ ให้ติดเครื่องสำรองไฟ (UPS) ให้เครื่องแม่ข่าย ก็จะช่วยป้องกันได้